กรีน ไอที (Green IT) ลดโลกร้อน ด้วยไอที

ผลสำรวจระบุว่า ทุกวันนี้ บรรดาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีที่มนุษย์ใช้กันอยู่ทั้งหมดจะกินพลังงานคิด เป็น 4-5% ของพลังงานโลกที่ใช้ไป และยังพบว่า 10% ของงบไอทีแต่ละปี เป็นค่าไฟฟ้าและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก

ศูนย์ ข้อมูล (ดาต้าเซ็นเตอร์) เป็นแหล่งรวมคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ไฟฟ้ามากมาย และปล่อยความร้อนสูง ต้องใช้เครื่องปรับอากาศจำนวนมาก เพื่อทำให้ระบบเย็นลง แน่นอนว่า เป็นต้นตอของการใช้พลังงานมหาศาล เกิดการปล่อยเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต้นเหตุปัญหาโลกร้อน
กรีนโปรเจ็กต์ (Green Project) ลดร้อนโลก


ค่าย ยักษ์สีฟ้า ไอบีเอ็ม ประกาศโครงการ PROJECT BIG GREEN มุ่งลดการใช้พลังงาน อย่างเป็นรูปธรรมสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของไอบีเอ็มและลูกค้า ส่วนหนึ่งไอบีเอ็มยุบรวมเครื่องแม่ข่าย (เซิร์ฟเวอร์) จาก 3,900 เครื่องให้เหลือเมนเฟรม 30 เครื่อง พร้อมย้ายไปสู่ระบบลินิกซ์ ตั้งเป้าลดการใช้พลังงาน 80% ใน 5 ปี







โครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ที่ครอบคลุมทั่วโลกนี้จะรองรับผู้ใช้ได้กว่า 3.5 แสนราย และยังพยายามอย่างต่อเนื่องจะออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ก้าวล้ำสำหรับองค์กร ขนาดใหญ่ทั่วโลก


ไอบีเอ็มใช้ "หมีขั้วโลก" เป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์สร้างจิตสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน รวมถึงงบประมาณรณรงค์และวิจัยด้านโลกร้อนอีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี


ขณะที่บริษัทฮิวแลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) แกะกล่องสินค้าใหม่ "กรีนไลน์ โพรดักส์" ประกอบด้วย สตอเรจระดับเอ็นเตอร์ไพร์ส เทปไดร์ฟ แก่กลุ่มองค์กรขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงผลิตภัณฑ์เทปสำหรับเอชพี สตอเรจ ซึ่งมีบทวิเคราะห์จากบริษัท Storage IO Group ระบุว่าสตอเรจเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงาน 37-70% จากพลังงานทั้งหมดที่ใช้ในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ณ ศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์


ทั้งนี้โพรดักส์ใหม่ทั้งหมดจะเป็นกลุ่มที่ช่วยลดพลังงาน และเอชพีจะใช้เป็นเรือธงรุกตลาด ชูจุดขายลดพลังงานลง 50%














ด้านบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ เสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ประหยัดไฟ ประหยัดพื้นที่ ดาต้าเซ็นเตอร์แบบเวอร์ช่วลไลซ์ และโชว์ต้นแบบการใช้เทคโนโลยีกรีนดาต้าเซ็นเตอร์ ผ่านโครงการเปิดตัวศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ประหยัดพลังงานใหม่ 3 แห่ง ในซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แบล็ควอเตอร์ ประเทศสหราชอาณาจักร และบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ทั้งหมดสร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดทั้งในด้านการออกแบบและระบบประหยัด พลังงานสำหรับยุคหน้าทั้งในด้านระบบพลังงานและการระบายความร้อน






โดย ซันคาดการณ์ว่า ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งสามแห่งนี้จะช่วยประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดอ็อกไซด์เกือบ 4,100 ตันจากชั้นบรรยากาศโลก รวมทั้งลดภาระรับผิดชอบในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ของซันลงอีก1% เฉพาะศูนย์ข้อมูลในสหรัฐ ลดการใช้พลังงานลง 75% เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล 4 เท่า ภายในเวลา 12 เดือน ช่วยลดค่าไฟฟ้า 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี


สินค้าเฉพาะทางร่วม กรีน ไอที (Green IT) ด้วย

ทั้งยังมีค่ายผู้ผลิตอุปกรณ์เฉพาะทาง ส่งสินค้าออกมารองรับกระแสโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สตอเรจ อย่าง ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์, อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น และผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่าย ซิสโก้ ซีสเต็มส์ รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์สำรองไฟ อย่างอีเมอร์สัน และเอพีซี


นอกจากนั้น ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่ภาคธุรกิจและไอที อย่างเช่น สตาร์บัคส์ กูเกิล อินเทล และซัน รวมกว่า 40 บริษัท เคลื่อนไหวตั้งกลุ่มริเริ่มช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและสภาพบรรยากาศโลก โดยการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Climate Savers Computing Initiative)



พร้อม ประกาศเป้าหมายรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ด้านต่างๆ ของโลก ภายในปี 2553 ให้ได้ 54 ล้านตันต่อปี ซึ่งเท่ากับการปล่อยก๊าซรายปีของรถยนต์ 11 ล้านคนต่อปี หรือโรงงานไฟฟ้าถ่านหินแบบเผาไหม้ 10-20 โรงต่อปี



FriendsInCar.com เว็บไซต์คาร์พูลแห่งแรก ของไทย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์